วิธีซักผ้าม่านเองง่ายๆ ไม่ต้องจ้างร้าน

     ผ้าม่านที่เราติดตั้งไว้ไม่ว่าจะในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น ล้วนมีผลต่อความสะอาดบ้าน เพราะฝุ่นต่างๆที่อยู่บนพื้นหรือฝุ่นที่อยู่ในอากาศ ส่วนใหญ่จะมาจากผ้าม่านทั้งนั้น เพราะผ้าม่านเป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำความสะอาดบ่อยนัก บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงและมีคนในครอบครัวเป็นภูมิแพ้ไม่ควรมองข้ามการซักผ้าม่านนะคะ ทางทีมงาน Bluuu ข้อมูลดีๆเกี่ยวกับการซักผ้าม่านมาฝากค่ะ 

  • ควรซักผ้าม่านบ่อยแค่ไหน 

      ความสกปรกของผ้าม่านขึ้นอยู่กับการดูแลความสะอาดภายในบ้าน และสภาพแวดล้อมนอกบ้าน หากมีบ้านที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ ฝุ่นจากท้องถนน ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ แน่นอนว่าบ้านของคุณควรทำความสะอาดบ่อยๆ ผ้าม่านก็เช่นกันค่ะ ควรซักผ้าม่านอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง ส่วนบ้านที่ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ หรือมีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ซักผ้าม่านปีละครั้งถือว่ากำลังดีค่ะ

      หากมีม่านโปร่ง ฝุ่นจะเกาะได้ง่ายกว่าม่านชนิดอื่นๆ ผ้าม่านชนิดนี้ควรซักบ่อยๆ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและไรฝุ่น  หรือหากมีการรีโนเวทบ้าน ฝุ่นจากงานช่าง ไม่ว่าจะเป็นงานเจาะฝ้า เจีย หรือตัด เป็นฝุ่นที่ค่อนข้างละเอียดมากๆ ถ้าหากไม่ได้เก็บผ้าม่านออก ฝุ่นอาจปลิวไปเกาะผ้าม่านและไม่ดีหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ

  • ควรซักผ้าม่านด้วยเครื่องซักผ้าหรือซักมือ 

      หากเป็นม่านตาไก่ควรถอดห่วงตาไก่ออกก่อน หรือถ้ามีโซ่ถ่วง ควรถอดออกก่อนซักทำความสะอาด ซักด้วยเครื่องซักผ้าหรือซักมือ ถ้าซักเครื่องควรซักด้วยโหมดถนอมผ้า ใช้ความเร็วต่ำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหนาบาง และชนิดของผ้าด้วย ควรศึกษาชนิดของผ้าให้ดีก่อน มิเช่นนั้นอาจทำให้ผ้าเสียรูปทรงได้ เช่น ผ้าม่านที่โดนแดดส่องโดยตรงจะมีความกรอบของผ้า และหากมีอายุใช้งานนานหลายๆปี ไม่ควรซักเครื่องเพราะจะทำให้ผ้ายุ่ยหรือขาดได้

     ซักด้วยน้ำธรรมดาอุณหภูมิปกติ หรือน้ำที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศา ถ้าผ้าม่านมีฝุ่นเกาะเยอะ ซักเครื่องมักจะไม่ค่อยสะอาด เพราะน้ำจะวนอยู่ในเครื่อง ให้ซักด้วยมือและเปิดน้ำไหลผ่านเยอะๆ จนกว่าน้ำจะไส

     ผ้าม่านที่โดนฝนสาด เกิดเชื้อรา ต้องซักทำความสะอาดโดยใช้ผงซักฟอกผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที ขจัดคราบโดยใช้น้ำยาขจัดคราบโดยตรง หรือใช้มะนาวและเกลือทาลงบนคราบ ทั้งนี้อาจต้องลองทาลงบริเวณที่มีคราบเล็กน้อยก่อน ทิ้งไว้ 15 นาที ล้างคราบออก และนำไปซักด้วยผงซักฟอกอีก 1 รอบ แต่วิธีการนี้เหมาะกับเนื้อผ้าที่เป็นคอตตอนและเนื้อผ้าลินินเท่านั้น ถ้าเป็นเนื้อผ้าชนิดอื่นควรส่งซักตามร้าน

 

    หากเป็นม่านที่มีชนิดผ้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษอย่างม่านหลุยส์ หรือผ้าม่าน Black out แบบเคลือบซิลิโคน ต้องใช้น้ำยาซักผ้าอ่อนๆ ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบขจัดคราบแรงๆ ห้ามใช้น้ำร้อน เพราะซิลิโคนที่เคลือบจะละลายออกมา หรือควรส่งซักผ้าม่านโดยผู้เชี่ยวชาญ

     ไม่ควรตากผ้าม่านให้โดนแดดแรงโดยตรง ควรตากในที่ร่มจนแห้งดี เป็นปกติที่ผ้าม่านเมื่อซักแล้วรอยอัดกลีบจะหายไป ผ้าจะมีความยับเกิดขึ้น และก่อนซักต้องถอดอุปกรณ์เหล็กหรือโซ่ที่อยู่ด้านในออกก่อน โดยเลาะด้ายบริเวณนั้นออกเพื่อป้องกันความเสียหาย ตอนใส่ให้ยัดโซ่เข้าไปและยกชายผ้าม่านขึ้น และเย็บปิดอีกครั้ง 

เมื่อซักผ้าม่านและตากจนแห้งแล้ว ถ้ามีรอยยับหรือรอยอัดกลีบหายไป ให้รีดด้วยเตารีดความร้อนต่ำ หรือเตารีดไอน้ำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบ้านด้วยค่ะ 

      นอกจากการซักผ้าม่านแล้ว ยังต้องดูแลความสะอาดในส่วนของ มุ้งรวด รางหน้าต่างด้วย เช็ดฝุ่น หรือดูดฝุ่นให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้ก็หายใจโล่งไปได้อีกนานเลยค่ะ สำหรับบ้านที่สมาชิกในครอบครัวเป็นภูมิแพ้ แพ้ฝุ่น มีสัตว์เลี้ยง หรือมีลูกเล็ก ไม่ควรมองข้ามการซักผ้าม่านนะคะ หรือถ้าหากคุณต้องการผู้ช่วยในการทำความสะอาดหรือกำลังหาแม่บ้าน เรามีบริการแม่บ้านรายชั่วโมงราคาประหยัด ไว้ใจได้ หรือเช็คค่าบริการได้ที่ Bluuu

เกี่ยวกับผู้เขียน 

Uthaiwan Boontham