ไล่งูยังไง ให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อทุกคนในครอบครัว

ทำไมงูถึงชอบเข้ามาในบ้าน ? เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่นะ ?

  1. แหล่งอาหาร: งูอาจเข้ามาหาเหยื่อ เช่น หนูหรือสัตว์เล็กๆ ที่อาจอยู่ในบ้านของเรา
  2. ที่หลบภัย: งูมักมองหาที่หลบภัยจากอากาศร้อนหรือศัตรู อาจมองหามุมที่มืดและเงียบสงบ
  3. ความชื้น: ห้องน้ำมักมีความชื้นสูง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับงูบางชนิด  เช่น ห้องน้ำหรือห้องครัว
  4. การเข้าออกง่าย: ถ้ามีช่องหรือรูที่งูสามารถเข้าออกได้ง่าย มันก็จะไม่รอช้าในการสำรวจ

การมีงูเข้ามาในบ้านเป็นเรื่องที่หลายครอบครัวไม่อยากให้เกิดขึ้น เนื่องจากงูอาจนำมาซึ่งอันตรายทั้งต่อชีวิตของทุกคนในครอบครัว การใช้วิธีการที่เหมาะสมในการไล่และป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวรู้สึกปลอดภัยและสบายใจในบ้านของทุกๆคน

ในบทความนี้เราจะนำเสนอ 7 วิธีในการไล่งูออกจากบ้าน พร้อมกับเคล็ดลับในการป้องกันไม่ให้งูเข้ามาอีก ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้สารเคมีหรือวิธีการที่อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เราหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกครอบครัวในการดูแลรักษาความปลอดภัยในบ้าน และทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยไร้กังวลนะครับ

  1. ห่าน 

ทุกคนรู้หรือไม่ ว่าห่านนั้นเป็นสัตว์ที่งูกลัว เพราะห่านนั้นเป็นสัตว์ที่ขี้โวยวาย เสียงดัง ซึ่งงูไม่ชอบ งูจะชอบความสันโดษและความเงียบสงบ พองูต้องมาเจอกับน้องห่านที่มีเสียงร้องทรงพลังกับการจิกอย่างไม่ลดละของน้องห่าน ทำให้งูอยากจะสลบลงไปตรงนั้นเลยล่ะครับ

  1. น้ำมัน

น้ำมันที่มีกลิ่นฉุน เช่น น้ำมันสน น้ำมันก๊าด หรือน้ำมันพืชผสมพริกไทย ใช้เป็นตัวช่วยในการไล่งูได้ดี ทำได้โดยนำน้ำมันมาเทรอบบ้านและพื้นที่เสี่ยงที่คิดว่าจะเป็นทางผ่านของงู เพื่อให้งบหลบเลี่ยงไม่เข้ามาใกล้บริเวณนั้นๆ แต่หากทิ้งไว้นานๆ กลิ่นอาจจางหายไปทำให้งูกลับมาได้ ดังนั้นเราจึงตรวจสอบและทำเป็นประจำอยู่เสมอนั่นเองครับ

  1. ผงกำมะถัน

เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถไล่งูให้ออกห่างจากตัวบ้านได้ สามารถทำตามได้ง่ายๆโดยการนำผงกำมะถันไปโรยในบริเวณที่คาดว่างูจะเข้ามา เช่น รอบสวน รอบบ้าน หรือนำผงกำมะถันไปผสมน้ำก่อนแล้วค่อยราดจะปลอดภัยต่อสุขภาพของคนในครอบครัวมากกว่า เพราะกลิ่นฉุนของกำมะถันจะไล่งูให้ออกไปที่อื่นนั่นเอง

  1. ปลูกต้นไม้ไล่งู

การปลูกต้นไม้บางชนิดสามารถช่วยไล่งูได้ เนื่องจากมีกลิ่นที่งูไม่ชอบ ดังนี้

  1. ต้นสะระแหน่ (Mint): มีกลิ่นหอมฉุนที่งูไม่ชอบ สามารถปลูกในกระถางหรือพื้นที่สวน
  2. ต้นมะกรูด (Kaffir Lime): กลิ่นของใบมะกรูดและผลมีคุณสมบัติช่วยไล่งูได้
  3. ต้นตะไคร้ (Lemongrass): มีกลิ่นที่เฉพาะทำให้งูไม่เข้ามาใกล้
  4. ต้นหอม (Onion): กลิ่นฉุนของต้นหอมสามารถช่วยขับไล่งูได้เช่นกัน
  5. ต้นหญ้าหวาน (Sweet Grass): มีกลิ่นหอมที่ไม่เป็นที่ชอบของงู
  1. มะกรูด

ผลมะกรูดเป็นสมุนไพรธรรมชาติที่หาได้ง่ายในบ้าน และมีกลิ่นที่มีความเป็นกรด ซึ่งทำให้งูไม่อยากเข้าใกล้พื้นที่นั้น วิธีการใช้งานคือการนำผลมะกรูดมาผ่าซีกแล้ววางไว้ตามจุดที่คาดว่างูอาจจะผ่านหรือเข้ามาได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ใบมะกรูดร่วมด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการไล่งูในพื้นที่นั้นได้เช่นกัน

  1. แผ่นกันงู

แผ่นกันงูก็เป็นอีก 1 สิ่งที่คนนิยมใช้กันในสมัยนี้ที่หาซื้อได้ง่าย เพราะเป็นวัสดุที่ใช้ป้องกันไม่ให้งูเลื้อยเข้ามาในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัย เช่น บ้าน สวน หรือฟาร์ม โดยทั่วไปจะทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น พลาสติก อลูมิเนียม หรือวัสดุที่มีความแข็งแรง โดยติดอยู่บนผนังหรือพื้นผิวอื่นๆ ที่เป็นแนวดิ่ง เช่น ผนังบ้าน เสาไฟฟ้าหน้าบ้าน จะทำให้งูเลื้อยแล้วตกลงพื้น ไม่สามารถเลื้อยเข้ามาในบ้านของเราได้

  1. แจ้งผู้เชี่ยวชาญ

เมื่อคุณพบเห็นงูอยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นงูเล็กหรืองูใหญ่ หรือเป็นพันธุ์ใดก็ตาม สิ่งแรกที่ควรทำคือการตั้งสติและเว้นระยะห่างจากงู หากมีเด็กอยู่ในบ้านควรพาเด็กออกไปให้ห่างจากบริเวณนั้น และไม่ควรพยายามจัดการกับงูด้วยตนเอง ควรโทรขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยที่หมายเลข 199 ซึ่งมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการจับงูและสัตว์มีพิษต่างๆ พร้อมทั้งมีความชำนาญในการจัดการกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างปลอดภัย

ผมคาดหวังว่าหากผู้อ่านได้อ่านบทความนี้แล้ว จะสามารถช่วยผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย หากทำแล้วเห็นผล ถูกใจในผลลัพธ์ก็อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆของคุณด้วยนะครับ ถึงแม่บ้าน bluuu จะไม่สามารถช่วยไล่งูได้ แต่ถ้าหากคุณต้องการหาแม่บ้านรายชั่วโมงมาช่วยทำความสะอาดบ้านในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ bluuu เพื่อศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยนะครับ

เกี่ยวกับผู้เขียน

Thossaporn K.